การใช้บริการ Cloud Native Services ของ PROEN ช่วยให้ได้รับความคุ้มค่าในการทำธุรกิจได้อย่างมหาศาล เพราะว่าการใช้บริการคลาวด์เนทีฟเป็นแนวทางในการออกแบบ พัฒนา และใช้งานแอปพลิเคชันที่เกิดขึ้นเพื่อทำงานบนระบบคลาวด์โดยเฉพาะ เป้าหมายหลักของระบบนี้คือการสร้างแอปพลิเคชันที่มีความยืดหยุ่น ปรับขนาดได้ตามต้องการ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ
Cloud Native Services ส่งผลดีต่อธุรกิจอย่างไร
- ความยืดหยุ่น
การทำงานของแอปพลิเคชันนี้สามารถปรับขนาดทรัพยากรได้ตามความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละช่วงเวลา ช่วยให้ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร ทำให้ผู้ใช้บริการประหยัดค่าใช้จ่ายและทรัพยากรได้อย่างต่อเนื่อง
- ความรวดเร็วในการพัฒนา
เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน Cloud Native ช่วยให้นักพัฒนาสร้างแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้น สามารถปรับใช้แอปพลิเคชันและบริการใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของการตลอดได้อย่างทันท่วงที
- สร้างความน่าเชื่อถือและเพิ่มความปลอดภัย
ระบบ Cloud Native มีการกระจายระบบและการสำรองข้อมูลช่วยให้แอปพลิเคชันทำงานได้อย่างต่อเนื่อง แม้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ไม่มีใครคาดคิดก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะระบบนี้มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง สามารถป้องกันข้อมูลของลูกค้าได้ ทำให้ลดความเสี่ยงของการเกิดข้อผิดพลาด และสามารถกู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว
- การปรับปรุงระบบและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แอปพลิเคชันของ Cloud Native สามารถอัปเดตและปรับปรุงระบบได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้บริการได้รับข้อมูลอัปเดตใหม่ ๆ อยู่เสมอ จึงช่วยให้เลือกใช้บริการคลาวด์ที่มีความทันสมัยได้อย่างเหมาะสม และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่องตามการใช้งานจริง จึงตอบโจทย์กับความต้องการของธุรกิจได้อย่างลงตัว
ความแตกต่างที่สร้างสรรค์ของ Cloud Native Services
การทำงานของ Cloud Native Services มีความแตกต่างและสร้างสรรค์มากกว่ากว่าระบบเดิม ๆ ที่ใครหลายคนรู้จัก หากเปรียบเทียบกับการสร้างบ้านหลังใหญ่ โดยทั่วไปเราจะสร้างแบบรวมทุกอย่างอยู่ภายในบ้านหลังเดียวมีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ เมื่อบ้านมีการปรับเปลี่ยนส่วนใดส่วนหนึ่งก็อาจส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นทั้งหมด
แต่การทำงานของ Cloud Native Services จะไม่ใช่แบบนั้น เพราะ Cloud Native Services จะเป็นเหมือนการสร้างบ้านหลายหลังเล็ก ๆ ที่ทำงานร่วมกัน แต่แยกส่วนออกจากกัน แต่ละส่วน (หรือแต่ละไมโครเซอร์วิส) จะมีหน้าที่เฉพาะของตัวเอง บ้านหลังหนึ่งสำหรับห้องนอน อีกหลังสำหรับห้องครัว ทำให้การปรับเปลี่ยน หรือขยายบ้านแต่ละส่วนทำได้ง่ายและเร็วกว่าแบบเดิม
อธิบายวิธีทำงานของ Cloud Native Services ในแต่ละขั้นตอนให้เข้าใจง่ายขึ้น
- เริ่มแรกสถาปัตยกรรมแบบไมโครเซอร์วิส จะแบ่งแอปพลิเคชันออกเป็นบริการย่อย ๆ ที่ทำงานอิสระจากกัน ทำให้สามารถพัฒนา ทดสอบ และปรับใช้ได้เร็ว
- ต่อมาจะบรรจุแอปพลิเคชันและทุกสิ่งที่จำเป็นในการทำงานลงในหน่วยที่เรียกว่า คอนเทนเนอร์ ทำให้สามารถย้ายและปรับใช้แอปพลิเคชันได้รวดเร็วและสม่ำเสมอ
- ระบบอัตโนมัติจะใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างกระบวนการต่าง ๆ เช่น การสร้างการทดสอบ และการปรับใช้แอปพลิเคชัน ช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความเร็วในการทำงาน
- DevOps จะเป็นการผสมรวมทีมพัฒนา (Dev) และทีมปฏิบัติการ (Ops) เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดกระบวนการพัฒนาและการดำเนินงานแอปพลิเคชันเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพในการทำงาน
- Continuous Delivery เป็นขั้นตอนสุดท้าย ขั้นตอนนี้เป็นการส่งมอบแอปพลิเคชันที่ผ่านการแก้ไข หรือพัฒนาเพิ่มเติมให้บ่อยและเร็วขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้ผู้ใช้บริการสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่บ่งบอกว่าธุรกิจมีปัญหาต้องใช้บริการ Cloud Native Services เข้ามาช่วยแก้ไข
สมมุติว่าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเกิดความล่าช้า หรือเกิดการล่มบ่อยเมื่อมีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก การใช้บริการ Cloud Native Services จะเข้ามาปรับขนาดทรัพยากรขึ้นหรือลงได้ตามความต้องการในแต่ละช่วงเวลา ทำให้ระบบสามารถรองรับปริมาณผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นได้อย่างราบรื่น
บริการ Cloud Native Services เหมาะกับใครบ้าง
- สตาร์ทอัพ ที่ต้องการลดต้นทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สามารถทดลองและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
- บริษัทเทคโนโลยีที่ต้องการพัฒนาและปรับใช้แอปพลิเคชันใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น แอปพลิเคชันมือถือ, แพลตฟอร์ม IoT และบริการ AI
- อุตสาหกรรมการเงินที่ต้องการพัฒนาบริการทางการเงินดิจิทัล เช่น ธนาคารและสถาบันการเงินที่ต้องการระบบชำระเงิน การให้สินเชื่อ และการลงทุนรูปแบบออนไลน์
- องค์กรภาครัฐที่ต้องการปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ประชาชนในโลกออนไลน์ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการให้บริการด้านสุขภาพ การศึกษา และการขนส่ง
- ธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่ต้องการความคล่องตัวในการปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด Cloud Native ช่วยให้สามารถปรับขนาดบริการของตนเองได้ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้า
ประโยชน์ที่ได้รับจาก Cloud Native Services
การเลือกใช้บริการ Cloud Native Services ของ PROEN สร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจได้หลายอย่างมาก เช่น
- การได้แอปพลิเคชันที่สามารถปรับขนาดขึ้นลงได้ตามความต้องการ
- มีการพัฒนาและปรับปรุงแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
- สร้างความน่าเชื่อถือ ลดความเสี่ยงของการเกิดข้อผิดพลาดและสามารถกู้คืนระบบได้ในเวลาอันสั้น
- ประหยัดต้นทุน เพราะจ่ายค่าบริการคลาวด์ตามการใช้งานจริง และมีการสนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
Cloud Native Services ของ PROEN คืออนาคตของธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยความยืดหยุ่น รวดเร็ว และความปลอดภัยที่เหนือกว่า ทำให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาธุรกิจของคุณได้อย่างเต็มที่
อย่ารอช้าที่จะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ มาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการทำงานบนคลาวด์ ด้วย Cloud Native Service ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของธุรกิจของคุณ
สนใจติดต่อติดต่อเรา PROEN ผู้เชี่ยวชาญด้านคลาวด์และทุกเรื่องของเทคโนโลยีที่ครบวงจรเพื่อรับคำปรึกษาเพิ่มเติมฟรี
สัมผัสประสบการณ์ PROEN Cloud ได้แล้วที่นี่
📞 โทร: 02690 3888
📧 อีเมล: sales@proen.co.th



