ในปัจจุบัน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ AI ในการทำงานต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของเว็บและแอปพลิเคชัน เนื่องจากเทคโนโลยี AI ต้องพึ่งพาการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก และการทำงานร่วมกับ API หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ การเลือกใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบมีความปลอดภัยจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
เครื่องมือที่โดดเด่นสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ AI
จากข้อมูลของ Gartner Magic Quadrant for Application Security Testing มีเครื่องมือหลายตัวที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง เราขอแนะนำเครื่องมือที่โดดเด่นดังนี้
- Acunetix by Invicti
- จุดเด่นของ Acunetix คือการสแกนช่องโหว่ของเว็บแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการรวมเทคโนโลยี Dynamic Application Security Testing (DAST) และ Interactive Application Security Testing (IAST) เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถระบุช่องโหว่ที่ซับซ้อน เช่น SQL Injection, Cross-Site Scripting (XSS) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ AI ในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง
- Netsparker by Invicti
- เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ระบบ DAST และ IAST เพื่อให้การตรวจสอบช่องโหว่เป็นไปอย่างแม่นยำ
- จุดเด่นของ Netsparker คือการลดจำนวน False Positive ทำให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้
- รองรับการทำงานแบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับทีมพัฒนาที่ใช้ AI ในการสร้างโค้ดและต้องการให้การตรวจสอบความปลอดภัยเป็นไปอย่างราบรื่น
- BlackDuck
- BlackDuck เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในด้านการรักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (OSS)
- ใช้ AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์โค้ดเพื่อตรวจจับช่องโหว่ที่อาจเกิดจากการใช้ไลบรารีของบุคคลที่สาม
- ช่วยให้นักพัฒนาตรวจสอบ License Compliance และป้องกันปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส
- เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ AI ในการเขียนโค้ดและต้องการตรวจสอบว่าไลบรารีที่ใช้งานปลอดภัยหรือไม่
- Veracode
- ใช้ Static Application Security Testing (SAST) และ Dynamic Application Security Testing (DAST) ทำให้สามารถระบุปัญหาทั้งในระดับโค้ดและระดับการทำงานของแอปพลิเคชันได้
- ให้บริการการวิเคราะห์ความปลอดภัยของโค้ดในรูปแบบ SaaS ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถตรวจสอบและแก้ไขช่องโหว่ได้อย่างรวดเร็ว
- Checkmarx
- เป็นเครื่องมือที่โดดเด่นด้าน Static Code Analysis โดยเฉพาะสำหรับทีมพัฒนาที่ต้องการผสานการรักษาความปลอดภัยเข้าไปในขั้นตอน DevSecOps
- รองรับการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม CI/CD ต่าง ๆ ได้ดี ทำให้สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการพัฒนา
- Fortify by OpenText (Micro Focus)
- ให้บริการครบวงจรด้านการรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน ตั้งแต่ Static, Dynamic และ Mobile Application Security Testing (MAST)
- สามารถวิเคราะห์โค้ดแบบเรียลไทม์และมีระบบการจัดการช่องโหว่ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้ง่ายขึ้น
เหตุผลที่ควรเลือกใช้เครื่องมือเหล่านี้
- รองรับการทำงานร่วมกับ AI และ Machine Learning
- เครื่องมือเหล่านี้สามารถผสานรวมกับระบบที่ใช้ AI ได้ดี และมี API สำหรับการทำงานอัตโนมัติ ทำให้สามารถสแกนและวิเคราะห์ช่องโหว่ได้แบบเรียลไทม์
- ลดความซับซ้อนในการรักษาความปลอดภัย
- ด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่การพัฒนา AI Model หรือแอปพลิเคชันหลักได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตรวจสอบช่องโหว่ด้วยตนเอง
- ความสามารถในการวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่
- เครื่องมือเหล่านี้ใช้ AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์ความร้ายแรงของช่องโหว่ ทำให้ทีมพัฒนาสามารถวางแผนการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นักพัฒนาที่ใช้ AI ควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่สามารถป้องกันช่องโหว่ได้อย่างแม่นยำและทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติได้ดี จากข้อมูลของ Gartner Magic Quadrant เครื่องมือที่โดดเด่น ได้แก่ Acunetix, Netsparker, BlackDuck, Veracode, Checkmarx และ Fortify ซึ่งสามารถช่วยให้นักพัฒนามั่นใจได้ว่า AI และแอปพลิเคชันของตนมีความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์
Source: Gartner, Magic Quadrant for Application Security Testing [May 2021]
สัมผัสประสบการณ์ PROEN Cloud ได้แล้วที่นี่
📞 โทร: 02690 3888
📧 อีเมล: sales@proen.co.th



