คัดเน้นๆ 6 เครื่องมือ Web/App Security ที่ Developer ยุค AI ไม่ควรมองข้าม!

ในปัจจุบัน นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ AI ในการทำงานต้องเผชิญกับความท้าทายด้านความปลอดภัยของเว็บและแอปพลิเคชัน เนื่องจากเทคโนโลยี AI ต้องพึ่งพาการประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก และการทำงานร่วมกับ API หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ การเลือกใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบมีความปลอดภัยจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น

จากข้อมูลของ Gartner Magic Quadrant for Application Security Testing มีเครื่องมือหลายตัวที่ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพสูง เราขอแนะนำเครื่องมือที่โดดเด่นดังนี้

  1. Acunetix by Invicti
  • จุดเด่นของ Acunetix คือการสแกนช่องโหว่ของเว็บแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการรวมเทคโนโลยี Dynamic Application Security Testing (DAST) และ Interactive Application Security Testing (IAST) เข้าด้วยกัน ทำให้สามารถระบุช่องโหว่ที่ซับซ้อน เช่น SQL Injection, Cross-Site Scripting (XSS) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ AI ในการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง

  1. Netsparker by Invicti
  • เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้ระบบ DAST และ IAST เพื่อให้การตรวจสอบช่องโหว่เป็นไปอย่างแม่นยำ
  • จุดเด่นของ Netsparker คือการลดจำนวน False Positive ทำให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้
  • รองรับการทำงานแบบอัตโนมัติ เหมาะสำหรับทีมพัฒนาที่ใช้ AI ในการสร้างโค้ดและต้องการให้การตรวจสอบความปลอดภัยเป็นไปอย่างราบรื่น

  1. BlackDuck
  • BlackDuck เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในด้านการรักษาความปลอดภัยของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส (OSS)
  • ใช้ AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์โค้ดเพื่อตรวจจับช่องโหว่ที่อาจเกิดจากการใช้ไลบรารีของบุคคลที่สาม
  • ช่วยให้นักพัฒนาตรวจสอบ License Compliance และป้องกันปัญหาด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส
  • เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ AI ในการเขียนโค้ดและต้องการตรวจสอบว่าไลบรารีที่ใช้งานปลอดภัยหรือไม่

  1. Veracode
  • ใช้ Static Application Security Testing (SAST) และ Dynamic Application Security Testing (DAST) ทำให้สามารถระบุปัญหาทั้งในระดับโค้ดและระดับการทำงานของแอปพลิเคชันได้
  • ให้บริการการวิเคราะห์ความปลอดภัยของโค้ดในรูปแบบ SaaS ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถตรวจสอบและแก้ไขช่องโหว่ได้อย่างรวดเร็ว

  1. Checkmarx
  • เป็นเครื่องมือที่โดดเด่นด้าน Static Code Analysis โดยเฉพาะสำหรับทีมพัฒนาที่ต้องการผสานการรักษาความปลอดภัยเข้าไปในขั้นตอน DevSecOps
  • รองรับการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์ม CI/CD ต่าง ๆ ได้ดี ทำให้สามารถตรวจสอบความปลอดภัยได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการพัฒนา

  1. Fortify by OpenText (Micro Focus)
  • ให้บริการครบวงจรด้านการรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน ตั้งแต่ Static, Dynamic และ Mobile Application Security Testing (MAST)
  • สามารถวิเคราะห์โค้ดแบบเรียลไทม์และมีระบบการจัดการช่องโหว่ที่ช่วยให้นักพัฒนาทำงานได้ง่ายขึ้น
  1. รองรับการทำงานร่วมกับ AI และ Machine Learning
  • เครื่องมือเหล่านี้สามารถผสานรวมกับระบบที่ใช้ AI ได้ดี และมี API สำหรับการทำงานอัตโนมัติ ทำให้สามารถสแกนและวิเคราะห์ช่องโหว่ได้แบบเรียลไทม์
  1. ลดความซับซ้อนในการรักษาความปลอดภัย
  • ด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติ นักพัฒนาสามารถโฟกัสที่การพัฒนา AI Model หรือแอปพลิเคชันหลักได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาไปกับการตรวจสอบช่องโหว่ด้วยตนเอง
  1. ความสามารถในการวิเคราะห์และจัดลำดับความสำคัญของช่องโหว่
  • เครื่องมือเหล่านี้ใช้ AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์ความร้ายแรงของช่องโหว่ ทำให้ทีมพัฒนาสามารถวางแผนการแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นักพัฒนาที่ใช้ AI ควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่สามารถป้องกันช่องโหว่ได้อย่างแม่นยำและทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติได้ดี จากข้อมูลของ Gartner Magic Quadrant เครื่องมือที่โดดเด่น ได้แก่ Acunetix, Netsparker, BlackDuck, Veracode, Checkmarx และ Fortify ซึ่งสามารถช่วยให้นักพัฒนามั่นใจได้ว่า AI และแอปพลิเคชันของตนมีความปลอดภัยจากภัยคุกคามทางไซเบอร์

Source: Gartner, Magic Quadrant for Application Security Testing [May 2021]

สัมผัสประสบการณ์ PROEN Cloud ได้แล้วที่นี่

📞 โทร: 02690 3888

📧 อีเมล: sales@proen.co.th

Recent Post

การจัดการความเสี่ยงคือสกิลที่ Developer ต้องมีติดตัว

ในโลกที่ระบบซอฟต์แวร์กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของทุกองค์กร ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในโค้ดหนึ่งบรรทัด อาจทำให้ระบบล่ม ธุรกิจหยุดชะงัก หรือข้อมูลสำคัญสูญหายได้ การจัดการความเสี่ยงจึงไม่ใช่แค่เรื่องของทีม IT Security หรือ SysAdmin แต่เป็นหน้าที่ของ Developer ทุกคนที่มีส่วนร่วมกับระบบนั้น ๆ

Read More »

Automation ระบบที่คิดเพื่ออนาคต ลงทุนเวลาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าในระยะยาว

ในสายตาคนนอกวงการ การที่ Developer หรือวิศวกรซอฟต์แวร์เขียน Script ให้งานให้สามารถทำงานได้อัตโนมัติ อาจดูเหมือนเป็นการ “หลีกเลี่ยง” งาน แต่ในโลกจริงของวงการพัฒนาเทคโนโลยี Automation มันคือการลงทุนทางเวลา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าเดิมในระยะยาว

Read More »

เป็น Dev ก็ Work from Anywhere ได้แม้ไม่มีคอม…รวมแอปเขียนโค้ดบนมือถือกับฟังก์ชั่นตัวเด็ด!

ในโลกที่ชีวิตของ Developer ไม่จำกัดอยู่แค่หลังโต๊ะทำงาน การเดินทาง นั่งคาเฟ่ หรือช่วงเวลาระหว่างรอรถ ก็สามารถกลายเป็น “เวลาแห่งการสร้างสรรค์” ได้ — เพราะตอนนี้มี แอปเขียนโค้ดบนมือถือ ให้เลือกใช้มากมายที่ช่วยให้ Dev ทำงานได้แม้ไม่มีโน้ตบุ๊กอยู่ใกล้ตัว

Read More »

AI อย่างเดียวคงไม่พอ…ต้องมี Platform ที่ใช่ เพื่อให้ Dev ทำงานง่ายยิ่งกว่าเดิม

ในยุคที่ AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป Developer หลายคนเริ่มหันมาใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด ตรวจสอบข้อผิดพลาด หรือแม้แต่สร้างโปรแกรมอัตโนมัติขั้นสูง แต่เบื้องหลังการใช้งาน AI ที่ได้ผลจริง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และสามารถประมวลผลได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ PROEN Cloud พร้อมจะมอบให้กับ Dev ทุกคนที่ต้องการก้าวไปอีกขั้น

Read More »