PROEN Any Cloud vs Global Cloud

Cloud Computing กำลังจะเป็นสิ่งที่องค์กรหลายๆ แห่งกำลังต้องการเนื่องจากมันเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในแนวทางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Microservices หรือแม้กระทั่ง Cryptocurrency คำถามที่คนส่วนใหญ่มักจะถามคือ แล้วเรื่องค่าใช้จ่ายล่ะมันจะบานปลายหรือเปล่าและการให้บริการหลังการขายจะเป็นอย่างไร วันนี้แอดได้เรียบเรียงข้อมูลคำตอบของคำถามนั้นๆ มาเรียบร้อยแล้วแต่ก่อนอื่นแอดจะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่า Cloud Computing มันคืออะไร มี Cloud Provider เจ้าไหนบ้าง และของ PROEN มีให้บริการไหม หลังจากนั้นแอดจะเปรียบเทียบ Features ต่างๆ ให้ทุกท่านได้ดูกัน

Cloud Computing มันคืออะไรกันแน่ ทำไมทุกคนถึงให้ความสนใจ

Cloud Computing เป็นเทคโนโลยีที่มีมานานพอสมควรและผู้คนเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น จนถึงทุกวันนี้และในอนาคต เหตุเนื่องจากว่ามันมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลในส่วนของ Physical Hardware ของ Compute นั้นๆ นอกจากนี้เทคโนโลยี Cloud ถ้าแอดอธิบายง่ายๆ นั่นก็คือการให้บริการในส่วนของ Computing Services ไม่ว่าจะเป็น Storage, Servers, Network, Software และอื่นๆ อีกมากมาย บนโลกที่เสมือนจริง (Virtual) โดย Resource นั้นเราสามารถเลือกได้ว่าอยากได้เป็น Private หรือ Public ซึ่งถ้าเป็น Private ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่า Public เป็นอย่างมากเนื่องจากเราต้องลงทุนในส่วนของ Hardware และมีสิทธิ์ที่จะควบคุมข้อมูลของทั้งองค์กรได้นั่นเอง

แล้ว Cloud Provider ล่ะมีเจ้าไหนบ้าง?

ณ ปัจจุบันเรามีหลายเจ้าอยู่พอสมควร อาทิเช่น PROEN Any Cloud, Huawei Cloud, Amazon Web Services (AWS), Azure, Google Cloud Platform (GCP), และอื่นๆ อีกมากมาย โดยแต่ละ Cloud Provider จะมีค่าเช่า Resource ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานและความต้องการขององค์กรนั้นๆ

PROEN Any Cloud

ทีนี้แอดจะลองยกตัวอย่างของ PROEN Any Cloud กันบ้างซึ่งทาง PROEN เองก็เป็นผู้นำในด้านการให้บริการ Cloud PaaS อีกด้วย โดยบน Platform ของทาง PROEN นั้น สามารถเลือกได้เลยไม่ว่าจะเป็น Public, Private, Hybrid หรือ Multi-cloud เราสามารถทำได้หมดเลย เจ๋งไหมล่ะครับ ทีนี้ข้อดีเด็ดๆ เลยของทาง PROEN Any Cloud ที่ต่างจากเจ้าอื่นเลยนั่นก็คือเราไม่คิดค่าบริการในส่วนของการ Transfer ข้อมูลภายในประเทศไม่ว่าจะเข้าหรือออกก็ฟรีสุดยอดไปเลยย

ค่าใช้จ่ายจะบานปลายหรือไม่?

ถ้าเราพูดถึงค่าใช้จ่ายนั้นแอดสามารถบอกได้เลยว่าองค์กรนั้นๆ จะต้องมีการวางแผนและทำ Budget เพื่อที่เราจะควบคุมค่าใช้จ่ายให้มันอยู่ใน Scope ของเราได้ ซึ่งถ้าเราเรียกในเชิงธุรกิจเราจะไม่ลืมนึกถึง Cost Management เลยทีเดียว

PROEN Any Cloud ของเราสามารถ Limit ได้ว่าแต่ละวัน/เดือน ไม่ให้เกินเท่าไหร่ เรามีราคาบอกให้เห็นกันเลย

บริการหลังการขายเป็นอย่างไรบ้าง?

หากเป็น Public Cloud ส่วนใหญ่ อาทิเช่น AWS, Azure, Huawei และ Google Cloud จะ Raise หาทีม Customer Support ของทาง Cloud Provider พวกนี้ได้ผ่านหน้าเว็ปไซต์ แต่ถ้าหากเป็น Cloud ที่อยู่ในไทยไม่ว่าจะเป็น PROEN Any Cloud, SiS หรือว่าเจ้าอื่นๆ Cloud Provider เหล่านี้ จะเน้นไปทาง Managed Service โดยจะมี Support คอยช่วยดูแลตลอด 24×7 ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายก็จะขึ้นอยู่กับ Requirement ของลูกค้าแต่ละองค์กร

ท้ายสุดแอดอยากจะให้ทุกคนเห็นถึงความแตกต่างระหว่าง Global Cloud และ PROEN Any Cloud โดยสามารถดูความแตกต่างได้จาก Table ข้างล่างครับ

สนใจทดลองใช้ PROEN Cloud ฟรี! 14 วัน ลงทะเบียนได้ที่
https://www.proen.cloud/th/get-free-trials/
Tel: 02690 3888
E-mail: sales@proen.co.th

Recent Post

PROEN Cloud บริการคลาวด์ในไทยรูปแบบ Platform-as-a-Service ที่จะทำให้ชีวิตของคุณง่ายมากขึ้น

Cloud Computing คือบริการที่เราใช้หรือเช่าใช้ระบบคอมพิวเตอร์หรือทรัพยากรด้านคอมพิวเตอร์ ของผู้ให้บริการ เพื่อนำมาใช้ในการทำงาน โดยที่เราไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Hardware และ Software เองทั้งระบบ ไม่ต้องวางระบบเครือข่ายเอง ลดความรับผิดชอบในการดูแลระบบลง (เพราะผู้ให้บริการจะเป็นผู้ดูแลให้เอง) แถมตอนอัพเกรดระบบยังทำได้ง่ายกว่า ผู้ใช้ทุกคนสามารถเข้าถึงระบบ ข้อมูลต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต สามารถจัดการ บริหารทรัพยากรของระบบ ผ่านเครือข่าย และมีการแบ่งใช้ทรัพยากรร่วมกัน (shared services) ได้ด้วย และการจ่ายเงินเพื่อเช่าระบบ ก็สามารถจ่ายตามความต้องการของเรา ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้นได้ หากวันใดความต้องการมีมากขึ้นก็สามารถซื้อเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มศักยภาพของระบบ Cloud Computing ได้ โดยที่ไม่ต้องอัพเกรดระบบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ให้วุ่นวาย ดังนั้น ธุรกิจขนาดเล็ก และขนาดกลาง รวมไปถึงสถาบันการศึกษา จึงหันมาใช้บริการ Cloud Computing ที่ทั้งช่วยลดต้นทุนและลดความยุ่งยากทั้งหลายกันมาก คล้ายกับเป็นการ Outsource งานนี้ออกไปเพื่อจะได้โฟกัสกับงานหลักของตนเองจริงๆ ประเภทของบริการ คลาวด์คอมพิวติ้ง  (Cloud Service Models) บริการ Cloud Computing มีหลากหลายรูปแบบ แต่ในที่นี้ เราขอพูดถึงรูปแบบหลักๆ 3 แบบได้แก่ 1. Infrastructure as a Service (IaaS) เป็นบริการให้ใช้โครงสร้างพื้นฐานทางคอมพิวเตอร์อย่าง หน่วยประมวลผล ระบบจัดเก็บข้อมูล ระบบเครือข่าย ในรูปแบบระบบเสมือน (Virtualization) ข้อดีคือองค์กรไม่ต้องลงทุนสิ่งเหล่านี้เอง, ยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างระบบไอทีขององค์กรในทุกรูปแบบ, สามารถขยายได้ง่าย ขยายได้ทีละนิดตามความเติบโตขององค์กรก็ได้ และที่สำคัญ ลดความยุ่งยากในการดูแล เพราะหน้าที่ในการดูแล จะอยู่ที่ผู้ให้บริการ ส่วนตัวค่าบริการขึ้นอยู่กับจำนวน CPU, Memory, Disk และ OS ที่ต้องการ 2. Software as a Service (SaaS) เป็นการที่ใช้หรือเช่าใช้บริการซอฟต์แวร์หรือแอพพลิเคชั่น ผ่านอินเทอร์เน็ต โดยประมวลผลบนระบบของผู้ให้บริการ ทำให้ไม่ต้องลงทุนในการสร้างระบบคอมพิวเตอร์ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์เอง ไม่ต้องพะวงเรื่องค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ เพราะซอฟต์แวร์จะถูกเรียกใช้งานผ่าน Cloud จากที่ไหนก็ได้ บริการ Software as a Service  หรือ SaaS เป็นการให้บริการที่ผู้ใช้บริการไม่ต้องกังวลอะไรมากเท่าใหร่ไม่ว่าจะเป็น Data Center, Application หรือ Database ผู้ใช้บริการสนใจเพียงว่า SaaS ที่เราเลือกใช้งานตรงกับที่เราต้องการ ซึ่ง บริการ Software as a Service  หรือ SaaS ใกล้ตัวเราที่สุดก็น่าจะเป็น Microsoft Office 365 ที่ให้บริการ Online  ทั้งงานเอกสาร งาน Present , Zoom ผู้ให้บริการ Online Conference ระดับโลก ที่มีจุดเด่นด้านการใช้งานที่ง่าย หรือถ้าในประเทศไทยก็จะเป็น Flow Account สำหรับใช้งานบัญชี หรือ  BUILK สำหรับบริหารต้นทุนธุรกิจก่อสร้างเป็นต้น 3. Platform as a Service (PaaS) สำหรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นนั้น หากเราต้องการพัฒนาเวบแอพพลิเคชั่นที่ค่อนข้างซับซ้อน ซึ่งรันบนเซิร์ฟเวอร์ หรือ Mobile application ที่มีการประมวลผลทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ เราก็ต้องตั้งเซิร์ฟเวอร์ เชื่อมต่อระบบเครือข่าย และสร้างสภาพแวดล้อม เพื่อทดสอบและรันซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น เช่น ติดตั้งระบบฐานข้อมูล, Web server, Runtime, Software Library, Frameworks ต่างๆ เป็นต้น จากนั้นก็อาจยังต้องเขียนโค้ดอีกจำนวนมาก กรณีเราใช้บริการ PaaS  ผู้ให้บริการจะเตรียมพื้นฐานต่างๆ เหล่านี้ไว้ให้เราต่อยอดได้เลย  พื้นฐานทั้ง Hardware, Software, และชุดคำสั่ง ที่ผู้ให้บริการเตรียมไว้ให้เราต่อยอดนี้เรียกว่า Platform ซึ่งก็จะทำให้ลดต้นทุนและเวลาที่ใช้ในการพัฒนาซอฟท์แวร์อย่างมาก โดยผู้ใช้งานสามารถกำหนดเลือก Platform ที่รองรับการพัฒนาที่มีการใช้งานอยู่แล้ว เช่น Java, Net, Go, PHP, Python, Node JS รวมไปถึงสามารสร้าง Load Balancer Database, Docker และ Kubernetes ได้เลยเพีงแค่กดไม่กี่คลิกเท่านั้น ค่าบริการในส่วน PaaS โดยส่วนใหญ่คิดตามปริมาณที่ประมวลผล ซึ่งแตกต่าง จาก IaaS ที่คิดตามทรัพยากรที่เราจองไว้ ปัจจุบัน PaaS ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะช่วยประหยัดเวลาให้กับ Developer ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเปิดโอกาสให้ได้เริ่มต้นศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเสียเวลาในการจัดเตรียมความพร้อมของระบบมากอย่างแต่ก่อน Let’s start PROEN Cloud ในรูปแบบ

Read More »

ประโยชน์ของการใช้งานแบบ Multi-Cloud

4 Cloud Options Everything you need to know. ประโยชน์ของการใช้งานแบบ Multi–Cloud Review Multi-Cloud on PROEN Cloud จาก Dashboard มีโปรเจคทั้งหมด 2 ชุดคือ PShop E-commerce และ WordPress PCloud โดยทั้งสองโปรเจคตั้งอยู่ที่ ดาต้าเซ็นเตอร์ของโปรเอ็นในประเทศไทย ในขั้นตอนต่อไป เราจะทำการติดตั้ง Graylog บน Google Cloud Platform Japan โดยเลือกจากปุ่มกด Marketplace ที่มุมซ้ายบน > เลือก Graylog > เลือก Graylog Version และ Region = Google-JP เพียงเท่านี้เราก็ได้ Graylog บน GCP Japan เป็นที่เรียบร้อย หากเพื่อนๆคนไหนมีความต้องการ Migrate Enviroment ไปยัง GCP ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือก Settings > Migration > เลือก Target Region ที่ต้องการย้ายระบบ เป็นไรล่ะคะเพื่อนๆ ง่ายไหมล่ะ ตอนนี้ PROEN Cloud เปิดให้ ลงทะเบียนทดลองใช้งานได้ที่ https://app.manage.proen.cloud/ และทางเรายินดีให้คำปรึกษา เพียงแค่ติดต่อเรามาได้ที่ Line @PROENInternet Tel : 02690 3888 E-mail : sales@proen.co.th

Read More »

PROEN Cloud vs Virtualization Cloud

Virtualization มีข้อจำกัด เทคนิค virtualization คือการสร้างคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machine หรือ VM) ที่มีทั้งซีพียู แรม สตอเรจ ระบบปฏิบัติการ ฯลฯ ขึ้นมารันบนคอมพิวเตอร์จริงๆ อีกทีหนึ่ง โดยตัวระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์เสมือน (Guest OS) จะไม่รู้ว่าตัวเองรันอยู่บน VM แต่เข้าใจว่ารันอยู่บนฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์จริงๆ วิธีการนี้ทำให้เกิดการแยกส่วน (isolation) ระหว่าง VM แต่ละตัวอย่างสมบูรณ์ สามารถรันระบบปฏิบัติการที่แตกต่างกันระหว่าง Guest OS กับ Host OS ได้ แต่ข้อเสียคือใช้ทรัพยากรซ้ำซ้อน ทำงานช้า เปลืองพื้นที่เก็บ OS และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่มักจะใช้เหมือนกันใน VM ทุกตัว PROEN Cloud สร้างมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ Virtualization Cloud คอนเทนเนอร์จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาข้างต้น โดยมีฮาร์ดแวร์และ OS เพียงชุดเดียวกัน ลดความซ้ำซ้อนของการใช้ทรัพยากรลง ส่วนตัวแอพพลิเคชันและซอฟต์แวร์ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างกันไปก็จะมี “container” (เทียบได้กับ VM) มาครอบเพื่อแบ่งส่วนทรัพยากรไว้ไม่ให้ยุ่งกัน จุดเด่นของคอนเทนเนอร์จึงเป็นเรื่องการใช้ทรัพยากรที่น้อยกว่า virtualization มาก อิมเมจของคอนเทนเนอร์อาจมีขนาดเพียงกี่ไม่กี่สิบ MB ในขณะที่อิมเมจของ VM ต้องใช้พื้นที่ระดับหลาย GB นอกจากนี้ ระยะเวลาที่ใช้บูต, พลังซีพียูและปริมาณแรมที่ต้องใช้ ก็ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้เซิร์ฟเวอร์หนึ่งเครื่องสามารถยัดคอนเทนเนอร์จำนวนมากกว่าการรัน VM ที่ให้ผลแบบเดียวกันถึง 2-3 เท่าตัว บางครั้ง คอนเทนเนอร์ถูกเรียกชื่อในทางเทคนิคว่า Operating-system-level virtualization หรือการสร้าง VM ที่ระดับ OS โดยเราไม่ต้องสร้างเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือนขึ้นมาทั้งตัว ข้อเสียของคอนเทนเนอร์ก็ย่อมเป็นความยืดหยุ่นที่น้อยกว่า virtualization แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะไม่สามารถใช้ OS ที่แตกต่างกันระหว่าง Guest และ Host ได้ (เพราะจุดเด่นของคอนเทนเนอร์คือการแชร์ OS ก็อปปี้เดียวกัน) จุดเด่นของ PROEN Cloud ที่สร้างมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัด ของ Virtualization Cloud ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็น สำหรับใครกำลังมองหา Platform ดีดีทางโปรเอ็นเราเองก็มีให้บริการ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเลยนะคะ ^^ สามารถทดลองใช้งานได้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ลงทะเบียนได้ที่ https://app.manage.proen.cloud/ หรือติดต่อเพื่อให้ทางเราให้คำปรึกษาได้ที่ Line @PROENInternet : https://line.me/R/ti/p/%40proeninternet Tel : 02690 3888 E-mail : sales@proen.co.th

Read More »