ทำไม PROEN SASE ถึงเป็นโซลูชันที่ใช่ที่สุดสำหรับ Hybrid Workplace

ในยุคที่การทำงานแบบ Hybrid Workplace กำลังเป็นเทรนด์หนึ่งที่องค์กรต้องปรับตาม แล้วมีสิ่งใดที่เราต้องเตรียมตัวบ้าง? การทำงานแบบไฮบริดนำมาซึ่งความท้าทายด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้องค์กรหลายๆองค์กรไม่สามารถปรับให้มีการทำงานแบบ Work from Home, Work from Anywhere ได้ แล้วอะไรจะเป็นทางออก? ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ PROEN SASE อย่างลึกซึ้ง ทั้งในแง่ของการทำงาน คุณสมบัติเด่น และเหตุผลที่ทำไมมันถึงเป็นโซลูชันที่เหมาะกับการทำงานแบบไฮบริดในปัจจุบัน

มารู้จักบริการ PROEN SASE คืออะไร?

PROEN Manage SASE เป็นสถาปัตยกรรมนวัตกรรมที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของรูปแบบการทำงานสมัยใหม่ ด้วยความเสถียร ปลอดภัย และเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริด โดยการผสานเทคโนโลยีจากผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะ VMware SD-WAN สำหรับความปลอดภัยทางไซเบอร์ และ Palo Alto Networks สำหรับไฟร์วอลล์เครือข่ายเสมือน ซึ่งเป็นบริการจาก PROEN CORP เป็นผู้ให้บริการโซลูชันเครือข่าย

องค์ประกอบของ PROEN SASE

Connect

ส่วนนี้เน้นการสร้างระบบเชื่อมต่อที่ทำงานได้ดี น่าเชื่อถือ และมีประสิทธิภาพสูง โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบขององค์กร โดยใช้โครงสร้างการเชื่อมต่อของ VMware SD-WAN ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันที่มีความเสถียร โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ เช่น VMware SD-WAN Orchestrator สำหรับการจัดการ, VMware SD-WAN Cloud Gateway และ VMware SD-WAN Edge ที่ติดตั้งใน Data Center ของบริษัท นอกจากนี้ยังมี Dynamic Multipart Orchestrator ที่ช่วยจัดการเส้นทางข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและเครือข่ายส่วนตัว (MPLS) ทำให้สามารถเข้าถึงบริการ SaaS และศูนย์ข้อมูลขององค์กรได้อย่างปลอดภัย

Protect

ส่วนนี้เน้นการสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อปกป้องระบบเครือข่ายจากภัยคุกคามต่างๆ โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยจาก Palo Alto Networks ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ เพื่อสร้างระบบไฟร์วอลล์เสมือนที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งช่วยรับประกันความปลอดภัยโดยรวมของระบบเครือข่าย ระบบนี้ถูกออกแบบมาให้มีความปลอดภัยในระดับสูง สามารถป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้หลากหลายรูปแบบ ช่วยปกป้องข้อมูลสำคัญในระบบ ลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ ตรวจสอบและกรองข้อมูลที่เข้าออกในระบบ ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาต ตรวจจับและบล็อกกิจกรรมที่น่าสงสัย

Applications

ส่วน “Applications” ของ PROEN Manage SASE ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผสานรวมความสามารถในการจัดการและควบคุมของ PROEN Manage SASE มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ ขององค์กร รวมการรักษาความปลอดภัยเข้ากับการให้บริการแอปพลิเคชัน เพื่อให้การใช้งานมีความปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้การทำงานในรูปแบบ Hybrid Workplace เป็นไปได้อย่างราบรื่น ให้พนักงานสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันขององค์กรได้จากทุกที่อย่างปลอดภัย

คุณสมบัติเด่นของ PROEN Manage SASE

การออกแบบที่ชาญฉลาด ไร้รอยต่อ และปลอดภัย

PROEN Manage SASE นำเสนอโซลูชันที่ผสมผสานความชาญฉลาด ความไร้รอยต่อ และความปลอดภัยเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยการใช้เทคโนโลยีระบบสามารถวิเคราะห์และปรับแต่งการทำงานได้โดยอัตโนมัติ ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด ผู้ใช้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน โดยไม่รู้สึกถึงความแตกต่างของเครือข่าย ซึ่งช่วยเพิ่มผลิตภาพในการทำงาน นอกจากนี้ ระบบยังมีการรักษาความปลอดภัยหลายชั้น รวมถึงการเข้ารหัสข้อมูลและการตรวจจับการเจาะข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้องค์กรสามารถปกป้องข้อมูลสำคัญได้อย่างมั่นใจ ในสภาพที่มีความเสี่ยงจากการทำงานนอกองค์กร

2. มีระบบที่จัดการง่าย

การจัดการระบบของ PROEN Manage SASE ถูกออกแบบมาให้ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ดูแลระบบ ด้วย Dashboard ควบคุมแบบรวมศูนย์ ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการทั้งเครือข่ายได้จากที่เดียว ลดความซับซ้อนและเวลาในการบริหารจัดการ การกำหนดค่าและอัปเดตระบบสามารถทำได้จากระยะไกล ช่วยลดความจำเป็นในการเดินทางไปยังสาขาต่างๆ ซึ่งประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ ระบบยังมี Report ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถตรวจสอบสถานะและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

3. เครื่องมือครบครัน

PROEN Manage SASE มอบชุดเครื่องมือที่ครบครันสำหรับการจัดการเครือข่าย และด้านความ โดยรวมฟังก์ชันการทำงานหลากหลาย เช่น SD-WAN, NGFW, CASB และ Zero Trust Network Access ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว ช่วยลดความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการระบบหลายๆ ส่วนแยกกัน นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือวิเคราะห์ประสิทธิภาพเครือข่าย มีระบบสำรองและกู้คืนข้อมูลอัตโนมัติช่วยรับประกันความต่อเนื่องทางธุรกิจ

4. เข้าถึงได้ในงบประมาณที่เหมาะสม

ด้วยโมเดลการคิดค่าบริการแบบยืดหยุ่น PROEN Manage SASE ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงได้ในงบประมาณที่เหมาะสม ระบบสามารถปรับขนาดตามความต้องการของธุรกิจ ทำให้องค์กรจ่ายเฉพาะสิ่งที่ใช้งานจริง เพื่อให้องค์กรสามารถลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป

5. บริการหลังการขาย

PROEN Manage SASE ไม่เพียงแต่นำเสนอโซลูชันทางเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับบริการเสริมที่เหมาะสม เริ่มตั้งแต่บริการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบและการใช้งานระบบ ที่ช่วยให้องค์กรสามารถปรับแต่งโซลูชันให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะได้อย่างแท้จริง การฝึกอบรมและการสนับสนุนทางเทคนิคจนกว่าจะใช้งานได้จริง ช่วยให้ทีมไอทีสามารถใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ การอัปเดตและปรับปรุงระบบอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ PROEN Manage SASE เป็นมากกว่าแค่ผลิตภัณฑ์ แต่เป็น Partner ทางเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความสำเร็จ

องค์กรที่เป็น Hybrid Workplace จะได้ประโยชน์อย่างไร

องค์กรที่เป็น Hybrid Workplace จะได้รับประโยชน์จากการใช้บริการ PROEN Manage SASE ในหลายด้าน เช่น การเข้าถึงข้อมูล ระบบภายในของบริษัทต่างๆ อย่างปลอดภัยช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น Work From Home หรือใน Office หรือแม้แต่จะ Work from Anywhere ก็มั่นใจ ข้อต่อมาคือการเชื่อมต่อที่เชื่อถือได้ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น ลดปัญหาการหลุดการเชื่อมต่อหรือความล่าช้าในการเข้าถึงระบบ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ อีกทั้งยังมีความสามารถในการปรับแต่งตามสภาพแวดล้อมการทำงานที่หลากหลายช่วยให้องค์กรสามารถรองรับความต้องการเฉพาะของแต่ละแผนกหรือสาขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องสร้างระบบแยกกันหลายชุด

สรุป : ทำไม PROEN Manage SASE เป็นโซลูชันสำหรับ Hybrid Workplace

บริการ PROEN Manage SASE มอบการรักษาความปลอดภัยระดับสูงที่จำเป็นสำหรับการปกป้องข้อมูลองค์กร ไม่ว่าพนักงานจะทำงานจากที่ไหนก็ตาม

ด้วยเทคโนโลยี SD-WAN ที่ทันสมัย ช่วยให้มั่นใจได้ว่าพนักงานสามารถเข้าถึงระบบและแอปพลิเคชันขององค์กรได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้าน ในออฟฟิศ หรือสถานที่อื่นๆ

PROEN Manage SASE เป็นบริการที่สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการขององค์กร ทำให้รองรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจได้

ระบบการจัดการแบบรวมศูนย์ช่วยให้ทีมไอทีสามารถควบคุมและตรวจสอบเครือข่ายทั้งหมดได้จากจุดเดียว ลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการ

โมเดลการคิดค่าบริการที่ยืดหยุ่นช่วยให้องค์กรสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงได้โดยไม่ต้องลงทุนมากเกินไป ใช้เท่าไหน จ่ายเท่านั้น

บริการหลังการขายที่ครบวงจร ตั้งแต่การให้คำปรึกษา การฝึกอบรม ไปจนถึงการสนับสนุนทางเทคนิค ช่วยให้องค์กรสามารถใช้งานระบบได้จริงๆ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

การจัดการความเสี่ยงคือสกิลที่ Developer ต้องมีติดตัว

ในโลกที่ระบบซอฟต์แวร์กลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานของทุกองค์กร ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในโค้ดหนึ่งบรรทัด อาจทำให้ระบบล่ม ธุรกิจหยุดชะงัก หรือข้อมูลสำคัญสูญหายได้ การจัดการความเสี่ยงจึงไม่ใช่แค่เรื่องของทีม IT Security หรือ SysAdmin แต่เป็นหน้าที่ของ Developer ทุกคนที่มีส่วนร่วมกับระบบนั้น ๆ

Automation ระบบที่คิดเพื่ออนาคต ลงทุนเวลาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าในระยะยาว

ในสายตาคนนอกวงการ การที่ Developer หรือวิศวกรซอฟต์แวร์เขียน Script ให้งานให้สามารถทำงานได้อัตโนมัติ อาจดูเหมือนเป็นการ “หลีกเลี่ยง” งาน แต่ในโลกจริงของวงการพัฒนาเทคโนโลยี Automation มันคือการลงทุนทางเวลา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่าเดิมในระยะยาว

เป็น Dev ก็ Work from Anywhere ได้แม้ไม่มีคอม…รวมแอปเขียนโค้ดบนมือถือกับฟังก์ชั่นตัวเด็ด!

ในโลกที่ชีวิตของ Developer ไม่จำกัดอยู่แค่หลังโต๊ะทำงาน การเดินทาง นั่งคาเฟ่ หรือช่วงเวลาระหว่างรอรถ ก็สามารถกลายเป็น “เวลาแห่งการสร้างสรรค์” ได้ — เพราะตอนนี้มี แอปเขียนโค้ดบนมือถือ ให้เลือกใช้มากมายที่ช่วยให้ Dev ทำงานได้แม้ไม่มีโน้ตบุ๊กอยู่ใกล้ตัว

AI อย่างเดียวคงไม่พอ…ต้องมี Platform ที่ใช่ เพื่อให้ Dev ทำงานง่ายยิ่งกว่าเดิม

ในยุคที่ AI ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป Developer หลายคนเริ่มหันมาใช้เครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนโค้ด ตรวจสอบข้อผิดพลาด หรือแม้แต่สร้างโปรแกรมอัตโนมัติขั้นสูง แต่เบื้องหลังการใช้งาน AI ที่ได้ผลจริง สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือ “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่ยืดหยุ่น ปลอดภัย และสามารถประมวลผลได้รวดเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ PROEN Cloud พร้อมจะมอบให้กับ Dev ทุกคนที่ต้องการก้าวไปอีกขั้น